ไมเคิล เจมส์ โอเวน (อังกฤษ: Michael James Owen) เกิดวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2522 ที่เชสเตอร์ ในเชสเชียร์ ในประเทศอังกฤษ
ไมเคิล โอเวน เป็นกองหน้าที่มีชื่อเสียงและเป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลในระหว่างปีที่เล่นให้กับลิเวอร์พูล (ค.ศ. 1996 - ค.ศ. 2004) เป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่อายุยังน้อย มีความว่องไว ยิงประตูได้คมกริบ อีกทั้งยังมีหน้าตาดี โดยมักจะถูกเปรียบเทียบกับ เดวิด เบคแคม ผู้เล่นกองกลาง กัปตันทีมชาติอังกฤษเช่นกัน จนได้รับฉายาจากแฟนฟุตบอลชาวไทยว่า "ไอ้หนูมหัศจรรย์" (Baby Goal)
ปี ค.ศ. 2001 ไมเคิล โอเวน ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป หรือ บัลลงดอร์ (Ballon d'Or) ต่อมา ในเอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ โอเวน ช่วยทำ 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล 2-1 และพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ไปครอง รวมถึง แชมป์ลีกคัพ และ แชมป์ยูฟ่าคัพ ในปีเดียวกันอีกด้วย
ปี ค.ศ. 2003 ไมเคิล โอเวน พา ลิเวอร์พูล เข้ารอบชิงชนะเลิศ ลีกคัพ เจอกับ คู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดย สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรก แล้วในครึ่งหลัง ไมเคิล โอเวน ก็ยิงประตูปิดท้ายเอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0 และพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ สมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ รวมถึง ไมเคิล โอเวน ทำแฮตทริก โดยยิง 4 ประตูให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 6-0
ปี ค.ศ. 2004 ไมเคิล โอเวน ได้สร้างความประหลาดใจแก่แฟนบอลและสร้างความเสียใจให้แก่แฟนลิเวอร์พูล โดยได้ย้ายไปอยู่กับ เรอัลมาดริด ในสเปน แต่ว่าไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าสมัยอยู่กับลิเวอร์พูล
ปี ค.ศ. 2005 ไมเคิล โอเวน ได้ย้ายกลับมาอังกฤษอีกครั้ง โดยได้ย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด แต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ ทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้มากนัก เมื่อหมดสัญญากับสโมสรนิวคาสเซิลแล้ว ในปี 2009 ไมเคิล โอเวน ก็ได้ตัดสินใจย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจให้เหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูลด้วยการย้ายไปโดยไม่มีค่าตัวเพื่อเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ไมเคิล โอเวน ได้ติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก ๆ ได้ลากลูกจากครึ่งสนามผ่านเข้าไปยิงประตูอาร์เจนตินาในการพบกันของทั้งสองทีมในรอบสอง ก่อนที่อังกฤษจะเป็นแพ้ไป แต่ทว่าลูกยิงลูกนั้นเป็นที่ฮือฮาและกล่าวขานเป็นอย่างมาก
ฟุตบอลโลก 2002 โอเวนได้ติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกที่ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น โดยพาทีมได้อันดับ 2 ของกลุ่ม F อังกฤษชนะ 1 เสมอ 2 (เสมอ สวีเดน 1-1, ชนะ อาร์เจนตินา 1-0 และ เสมอ ไนจีเรีย 0-0) ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โอเวน ได้ยิงประตูที่ 3 ให้ อังกฤษ เอาชนะ เดนมาร์ก 3-0 ต่อมา อังกฤษ ได้พบกับ บราซิล ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นครั้งแรกด้วยที่ทั้งสองทีมพบกันในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ซึ่งนัดนี้เป็นที่จับตามองอย่างมากของแฟนฟุตบอลทั่วโลก โอเวน เป็นผู้ยิงประตูให้ อังกฤษ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 แต่ทว่าในเวลาก่อนจะหมดครึ่งแรกไม่นานบราซิลก็สามารถตีเสมอได้จาก รีวัลดู และพลิกกลับมานำในครึ่งหลัง ก่อนจะชนะ 2-1 ไปในที่สุด
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 โอเวนถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยพาทีมได้อันดับ 2 ของกลุ่ม B อังกฤษชนะ 2 แพ้ 1 (แพ้ ฝรั่งเศส 1-2, ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และ ชนะ โครเอเชีย 4-2) พาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายกับโปรตุเกสเจ้าภาพในการดวลจุดโทษ โอเวนยิงได้ 1 ประตู ในนัดที่เจอกับ โปรตุเกส
ฟุตบอลโลก 2006 โอเวนถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกที่ ประเทศเยอรมัน ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โอเวน ไม่สามารถทำประตูได้ แต่พาทีมได้อันดับ 1 ของกลุ่ม B อังกฤษชนะ 2 เสมอ 1 (ชนะ ปารากวัย 1-0, ชนะ ตรินิแดดและโตเบโก 2-0 และ เสมอ สวีเดน 2-2) และพาทีมเอาชนะ เอกวาดอร์ 1-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยพาอังกฤษเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเจอกับ โปรตุเกส แต่พ่ายในการดวลจุดโทษ หลังเสมอ 0-0 ใน 90 นาที ทำให้อังกฤษต้องตกรอบรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันในฟุตบอลโลกหลังจากเมื่อปี 2002 พ่ายให้กับ บราซิล ในรอบเดียวกัน